“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าผ่าน แนว 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่านออกมาแสดงความเห็นว่า แม้เฟดจะยังคงต้องคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ก็ยอมรับว่า เฟดน่าจะกำลังใกล้ยุติวัฎจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้แล้ว
เงินดอลลาร์ฯ ยังคงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ หลังสัญญาณชะลอตัวของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (สะท้อนจากดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย.) หนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า แม้เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนก.ค. แต่ก็อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกไม่มากแล้วหลังจากนั้น อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
ในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์) เทียบกับ 35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 10-14 ก.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 514 ล้านบาท และ 3,570 ล้านบาท ตามลำดับคำพูดจาก เว็บสล็อตลิขสิ
สัปดาห์ถัดไป (17-21 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 34.00-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเมืองไทย และสัญญาณเงินทุนต่างชาติ
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR และตัวเลขเศรษฐกิจจีน อาทิ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/66 การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.คำพูดจาก สล็อตแตกง่าย