บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลกPIMCO Blackrock UBS Asset Management และ JP Morgan จัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “A Year in Review – Define Portfolio with Experts’ Top Picks.” โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการบริหารสินทรัพย์ประเภทต่างๆ มาร่วมกันให้มุมมองถึงภาวะตลาดในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต พร้อมแนะทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับสภาวะตลาดที่ยังคงมีความท้าทายและผันผวนจากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง อาทิ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน พร้อมแนวทางการลงทุนที่ใช้การคัดเลือกสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงมากเกินไป แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เช่น การขึ้นดอกเบี้ย หรือมาตรการจากภาครัฐ ปิดท้ายด้วยการวิเคราะห์ตลาดหุ้นจีนและเวียดนามซึ่งเป็นตลาดที่ยังคงมีศักยภาพเติบโตขึ้นได้อีกมากในอนาคต
บลจ.กรุงศรีมองว่า ภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ตลาดค่อนข้างมีความผันผวนโดยเฉพาะจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อสกัดเงินเฟ้อและความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ตลาดจึงมีการปรับฐานค่อนข้างแรง แต่จากตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดของ Bloomberg Consensus ชี้ให้เห็นอัตราการว่างงานที่ลดลง เงินเฟ้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ FED มีแนวโน้มที่อาจจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งยังมีการปรับตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 2.1% และผลประกอบการที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้นปี ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่เข้าสู่สภาวะถดถอยอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และตลาดหุ้นได้ตอบรับข่าวร้ายเหล่านี้ไปค่อนข้างมากแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้การลงทุนจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น และตลาดไม่น่าจะปรับการปรับฐานหนักๆ เหมือนช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
การลงทุนในตราสารหนี้ PIMCO ชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นสูงมากในตลาดที่พัฒนาแล้ว ทำให้เงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง คาดว่าธนาคารจะเริ่มหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้วหรือขึ้นอีกได้ไม่มากนัก ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ในสภาพตลาดที่ดอกเบี้ยจะขึ้นสู่จุดสูงสุดจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้นจากระดับอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทนที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างสูงแนะนำกองทุน กรุงศรีโทเทิลรีเทิร์นบอนด์-สะสมมูลค่า (KFTRB-A) ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO Total return Bond Fund
การลงทุนใน Multi-Assets โดย BlackRock เห็นด้วยว่าตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในช่วงที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้น โดยเชื่อว่าการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในหลากหลายสินทรัพย์และการบริการพอร์ตเชิงรุกและยืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาวะของตลาดในแต่ละช่วงจะตอบโจทย์การลงทุนได้อย่างเหมาะสม แนะนำกองทุน KFCORE ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก BGF ESG Multi-Asset Fund
ตลาดหุ้นจีน UBS Asset Management เชื่อว่าตลาดใกล้จะถึงจุดต่ำสุดในไม่ช้าเนื่องจากมีสัญญาณหลายอย่างที่มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น การบริโภคเพิ่มมากขึ้น ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวดีขึ้น คนจีนมีการเดินทางเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าในไตรมาส 3 และ 4 ตลาดจีนน่าจะมีข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แนะนำกองทุน KFACHINA-A ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก UBS (Lux) Investment SICAV – China A Opportunityคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ตลาดหุ้นเวียดนาม JP Morgan ให้มุมมองว่าในปีนี้ ตลาดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดีขึ้นเนื่องจากรัฐบาลผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ หรือการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเก็งกำไร ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น และการที่เวียดนามไม่มีวิกฤตเงินเฟ้อทำให้รัฐบาลสามารถลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของเวียดนามได้เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว แนะนำกองทุน KFVIET-A ซึ่งมีการลงทุนส่วนหนึ่งใน JPMorgan Vietnam Opportunities Fund
อ่านบทความฉบับเต็ม คลิกที่นี่
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทมิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต